เจลาติน
ยกระดับผลิตภัณฑ์ที่ดียิ่งกว่า
- หน้าหลัก
- ผลิตภัณฑ์จากเจลาติน
เจลาติน
เจลาตินจากปลา
เจลาติน เกรดพิเศษ
เจลาตินจากพืช
แคปซูลจากพืช
เครื่องผลิตซอฟท์เจล
เจลาตินแผ่น
เจลาตินคืออะไร
ประเภทของเจลาติน
เจลาตินกับการใช้งาน
กระบวนการผลิตเจลาติน
เจลาตินคืออะไร
ทำความรู้จัก เจลาตินคืออะไร? ใช้ทำอะไรได้บ้าง
เจลาติน คือโปรตีนชนิดหนึ่ง ที่ได้มาจากการสลายของคอลลาเจน ทำให้โมเลกุลของคอลลาเจนเล็กลง จนเปลี่ยนเป็นเจลาติน เจลาตินส่วนใหญ่ มักทำมาจาก หนังสัตว์ กระดูกวัวและเกล็ดปลา เจลาตินมีคุณสมบัติดูดซับน้ำได้ 5 – 10 เท่า และเมื่อเจลาตินได้รับความร้อนจะกลายเป็นของเหลว มีลักษณะหนืดคล้ายเจลหรือเยลลี่ ปัจจุบันเจลาติน ถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมยาและอาหาร เช่น แคปซูลยา เยลลี่ ทำแยม และในอุตสาหกรรมอื่น เช่น ทำกาว เป็นต้นประเภทของเจลาติน มีกี่แบบ?
ประเภทของเจลาติน มี 2 แบบ แบ่งตามการใช้งาน คือ- เจลาตินที่ใช้รับประทาน ใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร ทำขนมเบเกอรี่ เช่น เยลลี่ ไอศกรีม มาชเมลโล่ ฯลฯ
เจลาตินจากสัตว์ คืออะไร? ทำมาจาก
เจลาตินจากสัตว์ คือโปรตีนที่สกัดมาจากส่วนต่างๆของสัตว์ เช่น กระดูก, เกล็ดปลา, เมือก, หนังสัตว์ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เป็นต้น เจลาตินส่วนใหญ่มักทำมาจากหมูและจากวัว (สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม) โดยได้มาจากการสลายคอลลาเจนของเนื้อเยื่อในหนัง เอ็น และกระดูกของสัตว์ มีค่าความแข็งของเจลสูงกว่าเจลาตินจากปลา เจลาตินจากสัตว์ยังมีความสเถียรต่อความร้อนสูงกว่าเจลาตินจากปลา นิยมนำไปใช้ใน ความแตกต่างระหว่างเจลาตินจากหมูและจากวัว มีดังนี้- เจลาตินจากหมู ทำมาจากหนังและกระดูกหมู
- เจลาตินจากวัว ทำมาจากหนังและกระดูกวัว
เจลาตินจากพืช คืออะไร? ทำมาจาก
เจลาตินจากพืช คือโปรตีนที่สกัดมาจากเส้นใยของพืช เช่น มันสำปะหลัง ข้าวโพด สาหร่าย ฯลฯ มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบหลักและไม่มีส่วนประกอบของสัตว์เจือปน เจลาตินที่ทำมาจากพืช จะมีลักษณะคล้ายวุ้น เช่น วุ้นอการ์ วุ้นคาร์ราจีแนน มักนิยมนำมาใช้ทำขนม เบเกอรี่ต่างมากมาย อาทิ ทำแยม ทำวุ้นขนม ทำเยลลี่ ทำครีมหน้าเค้ก เป็นต้น นอกจากนี้ เจลาตินจากพืช ยังมีราคาสูงกว่าเจลาตินประเภทอื่นๆประโยชน์ของเจลาติน
เจลาติน คือสารสกัดจากโปรตีนธรรมชาติ อุดมไปด้วยกรดอะมิโน 18 ชนิด ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ช่วยบำรุงกระดูก เอ็นข้อต่อในร่างกายให้แข็งแรง ทำให้ร่างกายในไปใช้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอต่างๆได้ดี เจลาตินมีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งในเรื่องสุขภาพและช่วยบำรุงผิวพรรณ- เจลาติน ช่วยบำรุงสมอง ในเจลาตินยังมี กรดอะมิโนไกลซีน ที่มีสรรพคุณช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง พัฒนาในด้านความจำ รวมทั้งอาจช่วยบรรเทาอาการจากโรคทางจิตและช่วยบรรเทาอาการโรคนอนไม่หลับได้
- เจลาติน ช่วยบำรุงกระดูกและข้อต่อ เจลาตินมีสรรพคุณ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในร่างกาย ซึ่งคอลลาเจนจะทำให้กระดูกและข้อต่อ ห่อหุ้มด้วยแคลเซียลที่แข็งแรงขึ้น ทำให้กระดูกแข็งแรง เคลื่อนไหวได้ดีขึ้น ช่วยลดอาการติดขัดของเอ็นและข้อต่อระหว่างเคลื่อนไหวร่างกาย
- เจลาติน ช่วยบำรุงเล็บและเส้นผม เจลาตินช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนส่วนประกอบสำคัญในเส้นผม ผิวและเล็บ เจลาตินจึงมีสรรพคุณ ช่วยทำให้เส้นผมสุขภาพดี ผิวชุ่มชื้นและเล็บแข็งแรง ขาดเปราะได้ยากขึ้นได้
โครงสร้างเจลาติน
เราผลิตเจลาตินเกรดพรีเมี่ยมโปรตีนชั้นดี ที่ผ่านกระบวนการผลิตในโรงงานที่มีเทคโนโลยีทันสมัย และได้มาตรฐาน ISO กับ HACCP นอกจากได้รับการรับรองมาตรฐาน สูงสุด สอดคล้องตามมาตรฐาน GMP อีกด้วย พร้อมเลือกสรรอย่างดีที่สุดจากผู้จำหน่าย ที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านสุขภาพหลายหน่วยงานซึ่งผ่านการตรวจสอบแล้วว่าเป็นผลิตภัณฑ์เหมาะสำหรับนำมาใช้งานได้อย่างปลอดภัยประเภทของเจลาติน
ประเภทของเจลาติน
เจลาตินกับการใช้งาน
เจลาตินกับการใช้งาน
เจลาตินกับการใช้งาน
ด้วยคุณสมบัติที่มีความนุ่ม ยืดหยุ่น และความสามารถในการค่อยๆละลายในปากจึงทำให้เจลาตินกลายเป็นส่วนประกอบในอาหารที่ใช้กันอย่างกว้างขวาง ใน เยลลี่ ชอคโกแล๊ต หมากฝรั่ง กัมมี่ และของหวานชนิดอื่นๆอีกมากมาย ประกอบกับคุณสมบัติที่สามารถก่อให้เกิดเป็นโฟมและความทนต่อแรงตึงผิวอย่างเป็นเลิศจึงทำให้มีการนำมาใช้เป็นส่วนประกอบใน มาร์ชเมลโล (Marshmallow) ท๊อฟฟี่ (Toffee) และซูเฟล (Souffles) และด้วยคุณสมบัติยึดเกาะที่เหนียวมากจึงช่วยเป็นตัวประสาน (Binder) ในแฮมและไส้กรอกได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเจลาตินยังเป็นส่วนประกอบของอาหารประเภทอื่นๆ เช่น ไอศกรีม น้ำผลไม้ ไวน์ และอาหารอื่นๆอีกมากมาย คุณสมบัติของเจลาตินที่ใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารชนิดต่างๆจะแตกต่างกันไปทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้ใช้และการใช้งาน แต่โดยปกติแล้วเจลาตินมีความแข็งของเจลอยู่ที่ 80 ถึง 280 บลูม (Bloom) และมีความหนืดอยู่ที่ 20 ถึง 45 mps ในกรณีของขนมมาร์เมลโล หรือ เยลลี่ จะใช้เจลาตินมากกว่า 200 บลูมเจลาตินสำหรับยา
ที่อุณหภูมิห้อง เจลาตินสามารถห่อหุ้มวัตถุ ขัดขวางปฏิกิริยาออกซิเดชั่น (Oxidation) และป้องกันความชื้น และด้วยเหตุที่เจลาตินละลายและถูกดูดซึมได้ง่ายภายในร่างกาย จึงเป็นเหตุที่ว่าทำไมวงการแพทย์จึงนิยมใช้เจลาตินกันอย่างกว้างขวาง โดยทั่วไปในปัจจุบัน เจลาตินนำมาใช้ในการผลิตแคปซูลหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น แคปซูลนิ่ม (soft capsule) แคปซูลแข็ง (hard capsule) และไมโครแคปซูล (micro capsule) นอกเหนือไปจากที่ใช้ในการผลิตยาเหน็บ, แผ่นห้ามเลือด และยาเม็ด จึงเห็นได้ว่าอนาคตของเจลาตินยังคงกว้างไกลในการถูกเลือกนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์อีกหลากหลาย ในการผลิตแคปซูลนิ่ม (softgel) จะใช้เจลาตินที่มีความแข็งเจล 150-200 บลูม และมีความหนืดอยู่ที่ 35-45 mps ในขณะที่แคปซูลแบบแข็ง (hard capsule) จะใช้เจลาตินที่มีความแข็งเจลที่ประมาณ 250 บลูม และมีความหนืดอยู่ที่ 45-48 mpsเจลาตินในอุตสาหกรรมอื่นๆ
ด้วยคุณสมบัติที่มีความใสและเหนียว เจลาตินจะถูกนำมาใช้ในธนบัตรและอุตสาหกรรมกระดาษถ่ายเอกสารเพื่อยืดอายุ extend archival value และยังทำให้คุณสมบัติด้านการพับของกระดาษดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ เจลาตินยังใช้ในการผลิตเครื่องดนตรีเปียโน เครื่องดนตรีชนิดอื่นๆ ผลิตผลไม้ปลอม และใช้เป็นกาวในการเย็บเล่มสันหนังสือหรือปกหนังสือ และอื่นๆอีกมาก ด้วยคุณสมบัติที่มีความเหนียวและปราศจากกลิ่นจึงเหมาะสำหรับสินค้าที่มีมูลค่าสูง คุณสมบัติของเจลาตินเกรดอุตสาหกรรมอาจมีความแตกต่างกันทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าจะใช้ไปในลักษณะใดกระบวนการผลิตเจลาติน